“ตั๊ก ศิริพร” เจอเองกับตัว หลังหอบเงินบุญไปถวาย แต่พอถามประโยคเดียว “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ยอมพูดด้วยอีกเลย แม้แต่หน้ายังไม่มอง
มีเรื่องราวให้ได้ตกใจออกมาตลอดๆ สำหรับ ประเด็นของ วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งก่อนหน้านี้ หลวงพ่ออลงกต ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วเรียบร้อย ต่อมา นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตอารีรัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าพบ หลวงพ่ออลงกต เพื่อชี้แจงในส่วนของตึกดูแลผู้ป่วย เนื่องจากมีอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ในลักษณะคล้ายสถานพยาบาล แต่ทางวัดหรือมูลนิธิฯ ไม่ได้ขอจดทะเบียนอย่างถูกต้อง จึงต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน หลวงพ่ออลงกต กล่าวว่า ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยอมรับว่าไม่รู้เรื่องกฎหมายการดูแลผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ผิดว่าไปตามผิด และพร้อมแก้ไข โดยจะเดินหน้าต่อดูแลผู้ป่วยต่อไป

พร้อมกันนี้ ดร.ธนกฤต พร้อมด้วยรองอธิบดีกรมอนามัย เจ้าหน้าที่ของกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปที่ใจฟ้าฟาร์ม เพื่อดูพื้นที่การปลูกกัญชาของบริษัทที่มาเช่าดำเนินการปลูกกัญชาในใจฟ้าฟาร์ม ซึ่งมีการนำผู้สื่อข่าวบางสำนักเข้าไป เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด และเป็นแบบระบบปิดซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปได้โดยง่าย เหมือนโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป โดยมีการขออนุญาตกับทางกรมแพทย์แผนไทย และเป็นพื้นที่เช่าต่อจากทางมูลนิธิฯ ส่วนมูลนิธิจะเป็นของวัดหรือไม่ เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข ต้องไปดูว่าเป็นอย่างไร

เกี่ยวกับเรื่องนี้ในรายการโหนกระแส ตั๊ก ศิริพร อยู่ยอด หรือ ตั๊ก ลีลา นักแสดงชื่อดังได้มาร่วมพูดคุยในเรื่องนี้ เนื่องจากเธอมีประเด็นที่จะต้องออกมาชี้แจง เพราะเมื่อนานมาแล้วเธอได้ไลฟ์สดร่วมกับ สุนารี ราชสีมา และ ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ และมีคนอาจจะร่วมบุญด้วย จนตอนนั้นสามารถรวบรวมเงินเพื่อนำไปถวาย หลวงพ่ออลงกต ได้ถึง 7 แสนบาท

โดย ตั๊ก ศิริพร อธิบายว่า ตอนนั้นเธอรู้สึกว่า เลื่อมใสในตัวหลวงพ่ออลงกตมาจึงได้คุยกันกับ สุนารี และ ฮาย อาภาพร ว่าจะเดินทางไปทำบุญที่วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งระหว่างทางที่กำลังเดินทางไปนั้น ก็ก็ได้ไลฟ์สดเพื่อบอกกับแฟนคลับว่าจะไปทำบุญกัน และก็มีแฟนคลับอยากจะร่วมบุญด้วย จึงได้เปิดโอกาสให้คนโอนเงินเข้ามาร่วมทำบุญในครั้งนั้น

ตั๊ก ศิริพร ยืนยันว่า จำนวนเงินที่รวบรวมได้ในครั้งนั้นได้ประมาณ 7 แสนบาท แต่ตอนนั้นทางวัดโทรมาบอกว่า หลวงพ่อไม่ได้อยู่ที่วัด แต่มาออกรายการที่ ไทยพีบีเอส ตนและนักร้องรุ่นพี่จึงเลี้ยวรถแล้ว และเดินทางไปหาหลวงพ่อที่นั่น พร้อมกับนำเงินที่เพิ่งถอนออกมาสดๆ ไปถวายให้เลย

“ได้เจอท่านก็รู้สึกปิติ คิดว่าท่านไม่ได้จะมาให้เจอง่ายๆ จึงอยากจะขอสนทนาธรรมกับท่าน แต่จุดเอ๊ะดันมาเกิดขึ้นตอนที่ได้สนทนาธรรมกับท่านนี่แหละ เพราะตั๊กได้ถามท่านว่า ตอนนี้หลวงพ่อทำอะไรอยู่บ้าง เพราะเห็นว่า ท่านยุ่งมาก น่าจะงานเยอะ แล้วท่านก็บอกว่า ‘มีโครงการจะสร้างหมู่บ้าน ให้กับผู้ป่วย HIV ได้อยู่’ ตั๊กก็คิดในใจว่ามันต้องเป็นโครงการที่ใหญ่มากนะ เพราะมันคือหมู่บ้าน

ด้วยความที่อายุน้อยสุดในนั้น และเกิดความสงสัย ตั๊กก็เลยถามไปว่า หลวงพ่อสร้างทำไม สร้างเพื่ออะไร ทางหลวงพ่อบอกว่า ‘ก็เผื่อคนที่มาอยู่ในวัดแล้วเขาเจอกันแล้วอยากสร้างครอบครัวด้วยกัน เผื่อเขามีลูกกัน ก็จะได้มีบ้านอยู่’ ซึ่งตอนนั้นเรายังเข้าใจว่า โรค HIV เป็นโรคติดต่อที่อันตรายและไม่อยากให้มันแพร่เชื้อ ตั๊กจึงเอ๊ะในใจว่า จะให้เขาสร้างครอบครัวทำไม จะไม่เป็นการแพร่เชื้อต่อไปหรอ

ตั๊ก ก็ได้ถามหลวงพ่อไปเลยด้วยความสงสัยว่า หลวงพ่อคะ มันจะไม่เป็นการแพร่เชื้อหรือคะ พร้อมกับถามอีกว่า เด็กที่เกิดมาเค้าก็ต้องได้รับเชื้อไปด้วยสิ แล้วเราถามเด็กก่อนมั้ยว่า เขาอยากเกิดมาแล้วติดเชื้อ HIV หรือเปล่า เราถามก่อนมั้ย เพราะในสมัยก่อนผู้ป่วย HIV ก็ต้องรู้ตัวและปฏิบัติตัวและระมัดระวังในการใช้ชีวิต หลังจากที่ถามไปแบบนั้น หลวงพ่ออลงกต ก็ไม่พูดกับเราอีกเลย ตอนนั้นอยากจะตบปากตัวเองด้วยซ้ำ เพราะคิดว่า หลวงพ่อโกรธเราแน่ๆ เลย เพราะตอนนั้นไม่หันหน้ามามองอีกเลย ตอนนั้นใจเสียอีกเลย จากนั้นก็ไม่ไปวัดพระบาทน้ำพุอีกเลยเพราะคิดว่าหลวงพ่อโกรธ”